วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ความเป็นมาของผีดูดเลือด

ผีดูดเลือด 



สโตรกเกอร์คือผู้เขียนนวนิยายสยองขวัญเกี่ยวกับผีดูดเลือดมันเป็นเรื่องประหลาดที่เขาเขียนเรื่องนี้ขึ้นโดยมิได้เคยเดินทางไปยังเทือกเขาคาร์เพเทียนในรูมาเนียอันเป็นถิ่นกำเนิดของตำนานผีดูดเลือดอันน่าสะพรึงกลัว ท่านเคานต์ แดร็คคิวลา จอมผีดิบผู้มีปราสาทพำนักอยู่บนเทือกเขาคาร์เพเทียนและแบล็ค ฟอเรสท์ (ป่าดำ) ที่แม้ปัจจุบันก็ยังคงเป็นที่หวงห้ามและไม่พึงจะไม่เข้าไปวอแวของชาวรูมาเนีย แต่กลับ มีนักท่องเที่ยวหลั่งใหลมาเที่ยวชมตำนานผีดูดเลือดกับปีละมากๆ ทำให้สินค้าพื้นเมืองขายดิบขายดีกันตลอดปีตามไปด้วยบราห์มวาดภาพท่านเคานต์ไว้ว่าเป็นชายแก่ที่มีดวงตาแข็งกร้าว ปากมีสีแดงสด มีเขี้ยวคม ขาววับงอกโผล่พ้นริมฝีปากออกมาสวมชุดสีดำสวมเสื้อคลุมดำมีชีวิตอยู่ด้วยการดูดเลือดสดๆ จากคอของเหยื่อ มีอายุยืนยาวมากว่า 400 ปีเลยทีเดียวภาพของท่านเคานต์แตกตางไปจากตำนานดั้งเดิมของชาวรูมาเนีย เพราะชาวรุมาเนียนั้นเชื่อว่าผีดิบดูดเลือดจะสวมชุดที่เขาใส่ก่อนจะถูกบรรจุใส่โลงลงฝังในดินและฟื้นคืนชีพมาอาละวาดในชุดนั้นเอง
     
        ตำนานของชาวคาร์เพเทียนมิได้บอกว่าผีดิบขึ้นมาจากโลงที่ถูกฝังลึกลงไปได้อย่างไรเพราะผีดิบไม่ใช่วิญญาณแต่เป็นศพที่ไร้ลมหายใจจะแทรกโลงแทรกพื้นดินขึ้นมาไม่ได้ แต่ตำนานกลับซ่อนปมเด่นของท่านเคานต์ไว้ว่า "สามารถแปลงร่างเป็นค้างคาว เป็นหมาป่า เป็นกลุ่มควันและมีอำนาจสะกดจิตในดวงตากล้าแข็งมากจนเมื่อได้สบตาเหยื่อแล้วเหยื่อจะไม่อาจขัดขืนให้ท่านเคานต์ดูดเลือดจากคอได้เลย"ผีดูดเลือดมาจากไหนนี่เป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบมาก่อนจนถึงศตวรรษที่19 ได้มีการค้นพบค้างคาวชนิดหนึ่งในป่าร้อนชื้นของทวีปอเมริกา เจ้าค้างคาวประเภทนี้มีชีวิตอยู่ได้ด้วยการใช้เขี้ยวเจาะเส้นเลือดของสัตว์ต่างๆแล้วดูดเลือดกินมันจะเข้าจู่โจมสัตว์เลี้ยงเช่นแกะ วัว หรือแม้แต่สุนัขแล้วดูดเดือดออกไปจนแห้งและตายด้วยเลือดหมดตัวหรือโลหิตจาง ผุ้ค้นพบขนานนามมันว่า "แวมไพร" และหน้าตาของเจ้าแวมไพร์ก็แสนจะน่าเกลียดและน่ากลัว เจ้าค้างคาวแวมไพร์นี่และที่กลายมาเป็นเคานต์แดร็คคิวลาในที่สุด

       ** ผีดูดเลือดผิดกับมนุษย์หมาป่าก็ตรงที่พฤติกรรมมนุษย์หมาป่าจะฟัดกัดเหยื่อเพื่อระบายความโกรธแค้นและไม่กินเลือดหรือเนื้อของเหยื่อแต่ผีดูดเลือดจเไม่ตบกัดฟัดเหวี่ยงเหยื่อแต่จะสะกดจิตเหยื่อให้ตกอยู่ใต้ อำนาจแล้วจึงใช้เขี้ยวกัดลงไปที่เส้นเลือดใหญ่ที่ลำคอเหนื่อยให้เลือดทะลักออกมาแล้วดื่มเลือดนั้นเข้าไป จนเต็มอิ่มเหยื่อจะไม่ถึงแก่ความตายในการดูดเลือดครั้งเดียวแต่จะถึงแก่ความตายหลังจากถูกดูดเลือด หลายครั้งจนเลือดหมดตัว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น